ตำรวจ 191 รวบ 2 ผู้ต้องหาชาวอินโดนีเซียและสิงคโปร์ ใช้วีซ่านักศึกษา ตั้งแก๊งขายปืน-ระเบิด-รถเก๋งสวมทะเบียนผ่านทางไลน์ วีแชท เลี่ยงการตรวจสอบซื้อขายกันด้วยบิตคอยน์ หลังพบเบาะแสขับเบนซ์ เปลี่ยนสี สวมทะเบียนปลอม เช่าห้องพักเดือนละหมื่นสาม ย่านสุทธิสาร อยู่ระหว่างสืบหาต้นตอที่มาของปืน ระเบิดและของกลางทั้งหมด พร้อมหัวหน้าแก๊งชาวสิงคโปร์ผู้สั่งการ
ที่ห้องประชุมชั้น 1 กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 (บก.สปพ.) เมื่อเวลา13.00 น. วันที่ 4 ก.ย. พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผบก.สปพ. พ.ต.อ.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. พ.ต.ท.อัครพล โทยะ รอง ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. ร.ต.อ.คหัฐ บุตรเวียงพันธ์ รอง สว.งานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ บก.สปพ. ร่วมแถลงผลจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติ 2 ราย ประกอบด้วย นายบิงค์ อายุ 26 ปี ชาวสิงคโปร์ นายไอเดน อายุ 32 ปี ชาวอินโดนีเซีย ของกลางรถเบนซ์ สีแดง ติดแผ่นป้ายเสียภาษีประจำปีและแผ่นป้ายทะเบียนปลอม รถเก๋งนิสสัน ทะเบียน ขย 1137 ชลบุรี ปืนสั้น 7 กระบอก กระสุนปืน 584 นัด ระเบิดขว้างชนิดสังหาร M 67 จำนวน 1 ลูก ระเบิดขว้างชนิดควันสี KM 18 จำนวน 1 ลูก ระเบิดขว้างชนิดแสงวาบ 2 ลูก และอื่นๆอีกหลายรายการ โดยจับกุมได้ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านสุทธิสาร แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม.
สืบเนื่องจากตำรวจงานสายตรวจ 2 สืบสวนการกระทำผิดเกี่ยวกับรถยนต์ผิดกฎหมายและอาวุธปืนผิดกฎหมาย จนพบเบาะแสมีชายชาวต่างชาติใช้รถยนต์เบนซ์ สีแดง ทะเบียน ฌท 2289 กรุงเทพมหานคร ต้องสงสัยว่าเป็นรถยนต์ผิดกฎหมาย กระทั่งพบว่ารถคันดังกล่าวจอดอยู่ที่คอนโดมิเนียม ย่านสุทธิสาร จึงเฝ้าสังเกตการณ์กระทั่งนายบิงค์ เดินลงมาที่รถเบนซ์คันดังกล่าว ชุดจับกุมจึงแสดงตัวตรวจค้นและตรวจสอบพบเอกสารรวมทั้งแผ่นป้ายทะเบียนเกี่ยวกับรถเบนซ์คันดังกล่าวเป็นของปลอมทั้งหมด รวมถึงตรวจสอบตัวถังรถไม่พบข้อมูล นอกจากนี้ยังใช้สติกเกอร์ หรือ Wrap เปลี่ยนสีรถจากสีขาวเป็นสีแดง จึงคุมตัวไว้สอบสวน ระหว่างที่ตรวจค้นนายบิงค์ไม่ให้ความร่วมมือและแสดงท่าทีพิรุธ จึงจัดกำลังเฝ้าสังเกตการณ์กระทั่งพบชาวต่างชาติอีกรายทราบชื่อนายไอเดน วิ่งเข้าไปที่ห้องพักของนายบิงค์ ขนกระเป๋าสีดำลงมาที่รถเก๋งนิสสัน ทะเบียน ขย 1137 ชลบุรี ชุดจับกุมจึงควบคุมตัวไว้
จากการตรวจค้นในกระเป๋าสีดำที่นายไอเดนขนมานั้น พบปืนสั้น ระเบิด เครื่องกระสุนจำนวนมาก นำมาตรวจสอบที่ บก.สปพ. เบื้องต้นนายบิงค์ให้การว่า ปืนทั้งหมดเป็นของนายปรอสเปอร์ ชาวสิงคโปร์ นำมาจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติผ่านทางไลน์ และวีแชต มีการซื้อ-ขาย ทั้งรถ ปืน ระเบิดด้วยบิตคอยน์ สอดรับกับคำสารภาพของนายไอเดนที่ให้การว่า ภายหลังที่นายบิงค์ถูกจับกุมนายปรอสเปอร์ โทรศัพท์มาสั่งการให้นำปืนที่อยู่ในห้องพักของนายบิงค์ไปทิ้งเพื่อทำลายหลักฐาน โดยให้ค่าจ้าง 1 แสนบาท
จากการตรวจสอบการเข้าออกประเทศของนายบิงค์ และนายไอเดน พบเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรด้วยวีซ่านักเรียน นักศึกษา ตั้งแต่ปี 62 ส่วนห้องพักมีการเช่าตั้งแต่เดือน มิ.ย.ในราคาเดือนละ 13,000 บาท อยู่ระหว่างประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบว่าปืนทั้งหมดเคยถูกใช้ก่อเหตุหรือไม่ และตรวจสอบที่มาของรถเบนซ์ว่าจริงๆแล้วเป็นรถของผู้ใด ก่อนขยายผลติดตามตัวนายปรอสเปอร์ มาดำเนินคดี เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร นอกจากนี้ยังแจ้งข้อหานายบิงค์อีก 1 ข้อหาคือปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม คุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ดำเนินคดี
อ่านเพิ่มเติม...
September 05, 2020 at 05:07AM
https://ift.tt/3i4jT5R
รวบแก๊งต่างชาติ ค้าระเบิด-รถเถื่อน ซิกแซ็กใช้วีซ่านักศึกษาเข้าไทย - ไทยรัฐ
https://ift.tt/3faRoSj
Bagikan Berita Ini
0 Response to "รวบแก๊งต่างชาติ ค้าระเบิด-รถเถื่อน ซิกแซ็กใช้วีซ่านักศึกษาเข้าไทย - ไทยรัฐ"
Post a Comment